Saturday, May 1, 2010

แปลและรับรองเอกสาร

เป็นประเด็นคาใจมานานแล้วสำหรับการแปลเอกสารเพื่อขอวีซ่า  จากที่ดิฉันค้นหาทางข้อมูล และสับสนมาหลายครั้ง เมื่อได้ประสบกับตัวเองก็เลยไม่อยากให้คนอื่นต้องมาสับสนและสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ 

เอกสารที่ต้องแปลมีดังนี้
- บัตรประชาชน (ถ้าเป็นแบบสมาร์ทการ์ดที่มีภาษาอังกฤษด้วยก็ไม่ต้องแปล)
- ทะเบียนบ้าน
- สูติบัตร
- ทะเบียนสมรส (ถ้ามี)


เอกสารที่คุณให้ทางร้านแปลเอกสารแปลให้  คุณเอาไปยื่นประกอบการขอวีซ่าได้ทันที "ไม่ต้องเอาไปรับรองที่กงศุล"  แต่ถ้าเป็นเอกสารที่คุณแปลเอง  อันนั้นคุณต้องเอาไปรับรองเพราะว่าคุณไม่ใช่มืออาชีพและอาจจะแปลตกหล่นได้ 

ส่วนเอกสารอื่นๆ ส่วนตัวที่คุณคิดว่าจำเป็นต้องรับรองเพื่อที่จะเอาไปใช้ที่ออสเตรเลีย เอาไว้ให้วีซ่าคุณผ่านแล้วค่อยเอาไปให้ศูนย์แปลที่ออสเตรเลียแปลให้ก็ได้ค่ะ

การขอใบรับรองความประพฤติ

เอกสารที่ต้องเตรียมไป มีดังนี้

1.สำเนาบัตรประชาชน
2.สำเนาทะเบียนบ้าน
3.สำเนาพาสปอร์ต
4.สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี)
5.หนังสือจากทาง Vfs แจ้งว่าเราขอใบรับรองความประพฤติเพื่อไปประกอบการขอวีซ่า
6.สำเนาพาสปอร์ตของแฟน (เตรียมไปด้วย)

ขั้นแรกให้ไปติดต่อที่ Vfs เพื่อให้เค้าออกหนังสือที่จะเอาไปยื่นที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากนั้นก็ให้ไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

http://pcscenter.sb.police.go.th/service.php 
มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการยื่นขอหนังสือรับรอบความประพฤติติดต่อได ้ที่

ศูนย์บริการออกหนังสือรับรองความประพฤติ
ชั้น 1 อาคาร 24 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ถ.พระรามที่ 1 ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330

โทรศัพท์  0-2205-2168-9
โทรสาร 0-2205-1295
อีเมล์ pcscenter@royalthaipolice.go.th
The Police Clearance Service
Center.Building 24, Royal Thai Police,
Rama I, Pathumwan, Bangkok 10330

Phone : 0-2205-2168-9
Fax: 0-2205-1295
E-mail : pcscenter@royalthaipolice.go.th

** หมายเหตุ  ถ้าหากว่าคุณเคยมีประวัติในคดีอาญา  (ก็คือคดีใดๆ ก็ตามที่คุณได้เคยเข้าโรงพักและพิมพ์ลายนิ้วมือทั้งสิบนั่นแหล่ะ) ให้คุณเผื่อเวลาเอาไว้เนิ่นๆ เพราะจากปกติที่เค้าใช้เวลาประมาณ 14 วันในการออกใบนี้ให้คุณ  มันจะทำให้ใช้เวลานานขึ้นมาก และขั้นตอนอะไรต่างๆ ก็จะยุ่งยากมากตามเข้าไปด้วย  ก่อนอื่นให้คุณไปเอาหนังสือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่จะชี้แจงไว้ว่าคุณติดคดีอะไร  เมื่อไหร่  ให้คุณเอาไปยื่นที่ศาลเพื่อให้เค้าค้นหาว่าคดีสิ้นสุดอย่างไร แล้วเอาหนังสือนั้นมาให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลออกหนังสือให้คุณ  แต่ถ้าคดีของคุณนานมาก และศาลสั่งไม่ฟ้อง ทางศาลเค้าจะออกหนังสือให้คุณให้เอาไปที่สน.ที่เกิดเหตุ  เจ้าหน้าที่เค้าจะค้นเอาจากบันทึกประจำวันเพื่ออ้างอิงบทสรุปของคดี 

จากนั้นก็ให้คุณรอ  ไม่ทราบระยะเวลาที่แน่นอน ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ :-)

Friday, April 30, 2010

ขอวีซ่า (คู่สมรส) ต้องใช้อะไรบ้าง

การขอวีซ่าเพื่อย้ายถิ่นฐานของคู่สมรส/คู่ หมั้น/ ผู้มีความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยา/คู่ครองเพศเดียวกัน

ใครคือผู้ที่ควรสมัครขอวีช่าประเภทคู่สมรส /คู่หมั้น /ความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยา/ คู่ครองเพศเดียวกัน

- วีซาคู่สมรส
เป็นวีซ่าสําหรับผู้สมัครที่ได้จดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย หรืออยู่กินฉันท์สามีภรรยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสกับผู้ที่มีสิทธิในการสปอนเซอร์และรวมถึงผู้สมัครและสปอนเซอร์ที่เป็นเพศเดียวกัน

- วีซ่าสําหรับผู้ที่ จะทําการสมรสในประเทศออสเตรเลีย (คู่หมั้น)
เป็นวีซ่าสําหรับผู้ขอวีซ่าที่ได้หมั้นหมายกับผู้ที่มีสิทธิในการสปอนเซอร์ในประเทศออสเตรเลีย และ กําหนดการแต่งงานภายในระยะเวลา 9 เดือนหลังจากที่ได้รับอนุมัติวีซ่า

ข้าพเจ้าจะยื่น ใบสมัครขอวีซ่าได้อย่างไร?


• ยื่นด้วยตนเองได้ที่
สํานักงานเพื่อการยื่นขอ วีซ่าของออสเตรเลีย
ชั้น 34, ตึก ไทย ซีซี
เลขที่ 889 ถนน สาทร (ใต้) , กรุงเทพฯ (ตรงข้าามกับ สถานีรถไฟฟ้าาสุรศักดิ์)
ท่านสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก www.vfs-au.net


• ส่งทางไปรษณีย์ได้ที่
แผนกวีซ่า
สถานทูตออสเตรเลีย
37 ถนนสาทร (ใต้) กรุงเทพฯ 10120


• ที่สถานทูตออสเตรเลีย โดยการโทรศัพท์นัดหมายล่วงหน้าเท่านั้นที่หมายเลข 02 344 6449
ในกรณีที่ต้องมีการ สัมภาษณ์ ผู้สมัครจะได้รับแจ้งถึงวันและเวลาที่จะมีการสัมภาษณ์ภายหลังการพิจารณาใน เบื้องต้น

สิ่งสําคัญที่ ควรทราบในการยื่นใบสมัครขอวีซ่า
   ผู้สมัครจะต้องให้ข้อมูล โดยครบถ้วนเกี่ยวกับข้อมูลของการขอวีช่าในอดีต การปิดบังข้อมูลใดๆของท่านอาจมีผลให้ท่านไม่ได้รับอนุมัติวีซ่าให้เข้าประเทศออสเตรเลีย โปรดทราบถึงความสําคัญของการยื่นใบสมัครขอวีซ่าที่ สมบูรณ์ ชึ่งหมายถึงการ ให้ข้อมูลต่างๆพร้อมแนบเอกสารที่จะช่วยเจ้าหน้าที่ในการพิจารณาใบสมัครของ ท่าน

ผู้สมัครควรยื่นเอกสารให้ สมบูรณ์มากที่สุดพร้อมใบสมัครเพราะเจ้าหน้าที่อาจจะพิจารณาจากเอกสารเฉพาะ ที่ยื่นไว้ในเบื้องต้นเท่านั้น

เอกสารที่จําเป็นในการ พิจารณา
ภายหลังการยื่นใบสมัคร ผู้สมัครอาจได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่เพื่อขอเอกสารเพิ่มเติม หรือ สอบถามข้อมูลอื่นๆ ซึ่งเกี่ยวกับสถานภาพส่วนตัวของ ท่าน รายการเอกสารที่จําเป็นต่อการพิจารณาที่ระบุไว้ต่อไปนี้ ซึ่งเป็นเพียงรายการหลักเท่านั้น

ท่านสามารถยื่นเอกสาร เอื่นๆแนบมาได้หากเอกสารเหล่านั้นมีความเกี่ยวข้อง โปรดยื่นเอกสารต้นฉบับ พร้อมทั้งสําเนาที่ชัดเจน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะคืนเอกสารต้นฉบับให้เแก่ท่าน หลังทําการรับรองสําเนาถูกต้อง

ในกรณีที่เอกสารต้นฉบับ ไม่ใช่ภาษาอังกฤษผู้สมัครควรแนบ ใบแปลเอกสารเป็นภาษาอังกฤษด้วย

• ฟอร์มหมายเลข 47SP ซึ่งจะต้องกรอกเป็นภาษาอังกฤษ และลงนามโดยผู้ขอวีซ่า
• ฟอร์มหมายเลข 40SP ซึ่งจะต้องกรอกเป็นภาษาอังกฤษ และลงนามโดยผู้สปอนเซอร์
• ค่าธรรมเนียมการขอวีซ่า ซึ่งไม่สามารถขอรับคืนในภายหลัง (VAC)) ต้องชําระโดยแคชเชียร์เช็ค (หากซื้อในเขตกรุงเทพมหานคร หรือจังหวัดนนทบุรีและสมุทรปราการ) หรือชําระโดย ‘แบงก์ดราฟท์’ (เฉพาะเมื่อซื้อนอกเขตปริมณฑล) โดยสั่งจ่าย ‘สถานทูตออสเตรเลีย กรุงเทพฯ’ เป็นเงินสกุลบาทเท่านั้น

โปรดตรวจสอบค่าธรรมเนียม ปัจจุบันได้ที่

ww.immi.gov.au/allforms/990i/visa-charges.htm

• รูปถ่ายขนาดทําหนังสือเดินทาง 2 รูป
• สูติบัตร บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ของผู้ขอวีซ่า (และของแต่ละบุคคลที่ได้ระบุรวมในคําร้องขอวีซ่า) พร้อม สําเนาของหน้าแสดงข้อมูลรายละเอียดที่มีรูปถ่ายของผู้ถือหนังหนังสือเดินทาง และของทุกคนที่ได้ระบุรวมในใบสมัครขอวีซ่า รวมถึงบุตรอายุต่ำกว่า 18 ปีแม้ไม่ประสงค์จะย้ายถิ่นฐานตามผู้สมัครหลัก (หากมีหนังสือเดินทาง)

กรุณาตรวจสอบว่าราย ละเอียดของหนังสือเดินทาง การสะกดชื่อ นามสกุล และรายละเอียดต่างๆ จะต้องสอดคล้องกับเอกสารฉบับอื่นๆของท่านทั้งหมด

• ใบรับรองการเปลี่ยนชื่อ/ สกุล อย่างเป็นทางการ หากมีการเปลี่ยนชื่อของบุคคลใดๆที่มีชื่ออยู่ในใบสมัครขอวีซ่า
• ในกรณีที่มีการเสียชีวิตของบุคคลในครอบครัวให้แนบใบมรณะบัตร (เช่นบุตรหรืออดีตคู่สมรส)
และใบรับรองการหย่า หากเคยสมรสมาก่อน

การตรวจสุขภาพ และการสอบประวัติ
• ผลการตรวจสุขภาพของผู้ขอวีซ่าหลัก และบุคคลอื่นๆทุกคนที่ระบุรวมอยู่ในใบสมัคร รวมถึงบุตรอายุต่ำากว่า 18 ปีแม้ไม่ประสงค์จะย้ายถิ่นฐาน ไม่ว่าบุตรนั้นจะอยู่ในการปกครองดูแลของผู้สมัครหรือไม่ การตรวจสุขภาพจะ ต้องใช้แบบฟอร์มของสถานทูตและตรวจโดยแพทย์ /โรงพยาบาลที่ได้รับการอนุมัติโดยแผนกวีซ่าเท่านั้น

ผู้สมัครสามารถดูรายนาม แพทย์และโรงพยาบาลเหล่านี้ได้ ที่เว็บไซต์ ของสถานทูตออสเตรเลีย
www.thailand.embassy.gov.au

แบบฟอร์มการตรวจ สุขภาพขอรับได้ที่สํานักงานเพื่อการยื่นขอวีซ่าตึกไทย ซีซี
และการตรวจสุขภาพนี้อาจก ระทําก่อนที่จะมีการยื่นใบสมัครได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้สมัตรเอง
อย่างไรก็ตามโปรดทราบว่า ในกรณีที่ไม่ใด้รับการอนุมัติวีซ่า ท่านไม่สามารถ เรียกร้องค่าใช้จ่ายใดๆซึ่งเกิดจากการตรวจสุขภาพคืนจากทางแผนกวีซ่า

• ต้นฉบับใบรับรองการสอบ ประวัติจากแผนกสันติบาล ของกรมตํารวจจากทุกประเทศที่ผู้ขอวีซ่าและบุตรในอุปการะทุกคนซึ่งมีอายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ได้พํานักอาศัยอยู่เป็นระยะเวลารวมตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป ในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา โปรดศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจาก ฟอร์ม 47P ติดต่อสอบถามระเบียบการได้ที่


แผนกสอบประวัติ
กองสันติบาล ของสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ที่ อาคาร 24 , ถนนพระราม 1, กรุงเทพฯ ผู้สมัครที่เคยพํานักในประเทศออสเตรเลียตามระยะเวลาที่กําหนด **ขอรับแบบ ฟอร์มการยื่นขอสอบประวัติของประเทศออสเตรเลีย (ฟอร์ม 1101) ได้ที่สํานักงานเพื่อการยื่นขอ วีซ่าออสเตรเลีย ตึกไทย ซีซี

• เอกสารแสดงการรับราชการ ทหาร และ/หรือ รับรองการพ้นจากการรับราชการทหาร และ
• ใบรับรองการปฏิบัติ หน้าที่ ในกรณีที่ได้รับราชการทหารมาก่อน

หลักฐานแสดงความสัมพันธ์
• ลายลักษณ์อักษรจากผู้ขอ วีซ่าระบุรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติความสัมพันธ์กับ สปอนเซอร์ เช่น การพบกันครั้งแรกเกิดขึ้นอย่างไร เมื่อใด และที่ไหน และความสัมพันธ์นั้นได้พัฒนาขึ้นมาอย่างไร และ

• ลายลักษณ์อักษรจากบุคคล ซึ่งสามารถรับรองความสัมพันธ์ของผู้ขอวีซ่ากับ สปอนเซอร์อย่างน้อย 2 ท่าน โดยการระบุข้อความสามารถระบุในรูปแบบของฟอร์ม 888 หรือ โดย Statutory Declaration

• หลักฐานแสดงการติดต่อ/ ความ สัมพันธ์ กับ สปอนเซอร์ (เช่น จดหมาย ต้นฉบับ พร้อมซองจดหมาย อีเมล์ ใบเรียกเก็บค่าโทรศัพท์ รูปถ่าย หลักฐาน แสดงการโอนเงิน ฯลฯ)

• ทะเบียนสมรส (ในกรณีที่สมรส)

• ในกรณีที่ผู้สมัครขอวีซ่าประเภทผู้ที่มีความ สัมพันธ์ใกล้ชิด อยู่กินฉันท์สามีภรรยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสกับสปอนเซอร์ โปรดแสดง หลักฐานว่าความสัมพันธ์นั้นได้ดําเนินมาเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 12 เดือน ก่อนวันที่ยื่นใบสมัคร

คู่หมั้น (ผุ้ที่จะ ทําการสมรสในประเทศออสเตรเลีย)
• จดหมายจากเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับอนุมัติให้เป็น ผู้ประกอบพิธีสมรสในประเทศออสเตรเลีย (marriage celebrant)แจ้งถึง วันที่และสถานที่ซึ่งจะมีพิธีสมรส รวมทั้งยืนยันว่ามีการยื่นหนังสือกําหน ดการแต่งงาน (Notice of Intended Marriage – NOIM ) จากเจ้าหน้าที่ผู้ประกอบพิธี สมรสในประเทศออสเตรเลีย

•เอกสารราชการ ซึ่งออกโดยสํานักงานเขต/อําเภอ เพื่อ รับรองสถานภาพโสดของผู้ขอวีซ่า (เพื่อยืนยันว่าผู้ขอวีซ่า ปราศจากพันธะสมรส และสามารถ สมรสกับสปอนเซอร์ได้) และ

•หลักฐานที่แสดงว่า ผู้ขอวีซ่าได้เคยพบปะกับสปอนเซอร์ด้วยตนเอง ก่อนที่จะมีการสมัครขอวีซ่า หลักฐานดังกล่าว อาจรวมถึงหลัก ฐานจากรูปถ่าย

สิทธิในการปกครองบุตร/ ผู้เยาว์ และการยินยอมของผู้ปกครองตามกฎหมาย สําหรับบุตรที่จะย้ายถิ่นฐาน

• เอกสารราชการแสดงสิทธิใน การเป็นผู้ปกครองของบุตรที่ร่วมยื่นคําร้องขอวีซ่า เช่น หนังสือบันทึกการหย่า หรือ พ.ก. 14 หรือมรณบัตร ในกรณีที่ผู้ ปกครองอีกฝ่ายหนึ่งของบุตรถึงแก่กรรม

• ลายลักษณ์อักษรจากผู้ ปกครองอีกฝ่ายหนึ่งของบุตร เพื่อรับทราบและยินยอมให้บุตรย้ายถิ่นฐานอย่างถาวรไปประเทศออสเตรเลียพร้อม กับผู้ขอวีซ่าหลัก พร้อมสําเนาที่ได้รับการรับรองของหนังสือเดินทางหรือบัตรประชาชนของผู้ ปกครองอีกฝ่ายหนึ่งของบุตรดังกล่าว

ผู้อุปถัมภ์ (สปอนเซอร์) จะต้องยื่นเอกสารต่างๆ ต่อไปนี้ (สามี/คุ่หมั้น)
• รูปถ่ายขนาดสําหรับทํา หนังสือเดินทาง 1 ใบ
• หลักฐานแสดงว่าเป็นผู้ถือ สัญชาติออสเตรเลีย หรือผู้ถือวีซ่าถาวรของ ประเทศออสเตรเลีย
หรือเป็นชาวนิวซีแลนด์ที่ได้ รับอนุมัติตามกฎหมายให้มีสิทธิเป็นผู้สปอนเซอร์

สําหรับชาวนิวซีแลนด์ที่ได้รับ การอนุมัติตามกฎหมายให้มีสิทธิเป็นผู้สปอนเซอร์นั้น
ต้องดําเนินการตรวจสุขภาพและ การสอบประวัติให้สมบูรณ์พร้อมข้อกําหนดอื่นๆที่ได้ระบุไว้ในแบบฟอร์ม 40SP และในหนังสือคู่มือฉบับที่ 1 “การย้ายถิ่นฐานของคู่สมรส /คู่หมั้น /ผู้มีความ สัมพันธ์ฉันท์คู่สมรส” ซึ่งท่านสามารถเข้าดูได้จากเว็บไซต์ www.immi.gov.au

• หลักฐานอื่นๆที่แสดงถึง ความสามารถทางด้านการเงินของสปอนเซอร์ ที่ยืนยันความสามารถในการดูแลย้ายถิ่นฐานของผู้สมัคร (เช่น หลักฐานแสดงการทํางาน ใบแจ้งประเมินภาษี เอกสารทางธุรกิจหากทํา งานของตนเอง เอกสารแสดงบํานาญจากการเกษียณในกรณีที่เกษียณจากการทํางานและต้องเลี้ยงดูตน เอง)

หากหลักฐานการให้การรับรองด้าน การเงินไม่เพียงพอ สปอนเซอร์อาจถูกขอให้ยื่น ใบรับประกันการสนับสนุน (Assurance of Support)

• ใบรับรองการหย่า หากเคยสมรสมาก่อน

การพิจารณาใบสมัครจะใซ้ ระยะเวลานานเท่าใด?
โดยทั่วไปผู้สมัครจะทราบผลการ พิจารณาภายในระยะเวลา 3 เดือน นับจากวันยื่นใบสมัคร

ในกรณีที่เอกสารประกอบการ พิจารณาไม่สมบูรณ์ จะทําให้ระยะเวลาการ พิจารณาใบสมัครล่าช้ากว่าเดิม เช่นในกรณีที่ผู้สมัครมีประวัติของการ ประพฤติมิชอบหรือมีข้อมูลของการประกอบอาชญากรรม หรือเอกสารเกี่ยวกับสิทธิการปกครองบุตรผู้เยาว์ไม่ชัดเจน หรือในกรณีที่ต้องตรวจสุขภาพเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามผู้สมัครจะได้รับการแจ้งถึงสาเหตุของการล่าช้านี้

เป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้ บุคคลอื่นติดต่อกับทางสถานทูตแทนในนามของท่าน?
กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ของประเทศออสเตรเลีย เป็นข้ออกําหนดให้แผนกวีซ่าไม่สามารถตอบคําถามจากบุคคลที่ไม่ได้รับมอบอํานา จจากผู้สมัครซึ่งรวมถึงผู้ที่ให้การสนับสนุนใบสมัครของท่าน (สปอนเซอร์) ดังนั้น หากท่านต้องการให้บุคคลอื่นทําการติดต่อรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับใบสมัครของ ท่าน ผู้สมัครจะต้องระบุการมอบอํานาจให้แก่บุคคลนั้นโดยแจ้งในแบบฟอร์มใบสมัครขอ วีซ่าหรือใช้แบบฟอร์ม 956

หากท่านต้องการพบเพื่อปรึกษากับเจ้าหน้าที่ ผู้ดูแลใบสมัครของท่านโดยตรง ท่านจะต้องทําการนัดหมายล่วงหน้ากับเจ้าหน้าที่ เพื่อรับ ทราบกําหนดวันและเวลานัดหมายได้ที่หมายเลข 02 344 6449

รายละเอียดต่างๆของ วีซ่าถาวรประเภทนี้อ่านได้ที่
www.immi.gov.au หรือที่ www.thailand.embassy.gov.au

จดทะเบียนสมรส

การจดทะเบียนสมรสระหว่างคนไทยกับชาวต่างชาตินั้นไม่ใช่เรื่องง่ายก็จริง  แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากซะทีเดียว  เพียงแต่คุณต้องเตรียมหาข้อมูลให้พร้อม และเตรียมเวลา.. ถ้าอยากจะทำให้เสร็จเรียบร้อยภายในวันเดียวนั้นก็สามารถที่จะทำได้  เพียงแต่คุณต้องตื่นแต่เช้าหน่อยเพราะสถานที่ราชการส่วนใหญ่มักจะเริ่มเปิด ทำการ 8.00-16.00 น. ถ้าตื่นซะบ่ายก็เป็นอันว่าคุณไม่สามารถทำให้เสร็จเรียบร้อยภายใน 1 วันเป็นแน่แท้



เอกสารที่ต้องเตรียมมีอะไรบ้าง
ฝ่ายชาย
1. ใบรับรองความเป็นโสด ที่กงศุล รับรอง + สำเนา 1 ชุด  ( ทางเขตที่จดทะเบียนจะเอาตัวจริงไป )
2. พาสปอร์ตตัวจริง + สำเนา  1 ชุด
3. สำเนาหน้าที่แสตป์ม วันเข้ามาล่าสุด 1 ชุด

ฝ่ายหญิง
1. บัตรประชาชนตัวจริง + สำเนา 2 ชุด
2. สำเนาทะเบียนบ้าน  1 ชุด

ถ้าไปจดที่เขตที่มีทะเบียนบ้านให้นำ ทะเบียนบ้านตัวจริงไปด้วย จะได้ เปลี่ยนนามสกุล เปลี่ยนบัตรประชาชนได้เลย
พยาน 2 คน ( เขตบางรัก ถ้าไม่มีพยานไปก็ได้ )

**ข้อมูลจากเลดี้อินเตอร์

การขอใบรับรองโสดนั้นให้ไปขอที่สถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย  ให้ทางฝ่ายชายเตรียมเอกสารที่จำเป็นของตัวเองไปให้เรียบร้อยเช่นถ้าเคยผ่านการแต่งงานและหย่ามาแล้ว
ก็ให้เตรียมเอกสารมาด้วย  โดยขั้นตอนการขอใบรับรองโสดนี้ไช้เวลาไม่นาน  ประมาณ 30 นาทีก็เรียบร้อย  จากนั้นก็ให้ตรงไปที่กงศุลที่แจ้งวัฒนะ  ถ้าไม่รู้ว่าจะแปลที่ไหนก็ให้ถามมอเตอร์ไซค์รับจ้างเอาก็ได้  เค้าจะพาคุณไปเอง โดยคนรับแปลเอกสารแถวนั้นมีเยอะมาก  เรียกได้ว่าเค้าจะเดินมาหาคุณเองเลยก็มี  เมื่อตกลงกันเรียบร้อยแล้วเค้าก็จะให้คุณนั่งรอประมาณ 15-30 นาที ให้ไปหาอะไรทานก่อนก็ได้  พอเสร็จแล้วเค้าจะโทรมาบอกคุณเอง ค่าแปลประมาณ 350 บาท

เมื่อได้เอกสารที่แปลแล้วก็ให้ขึ้นไปชั้น 2 ให้ไปที่ประชาสัมพันธ์และบอกเค้าว่ารับรองเอกสาร (ด่วน) เค้าจะแนะนำขั้นตอนต่อไปเองว่าต้องทำยังไง  จากนั้นก็นั่งรอใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ค่าธรรมเนียมการรับรองเอกสาร ธรรมดา 400 บาท (ใช้เวลานานหน่อย) ด่วน 800 บาท  แนะนำว่าก่อนจะรับเอกสารให้ตรวจทานให้เรียบร้อยว่าเป็นเอกสารของคุณเอง  เพราะวันๆ นึงเจ้าหน้าที่ได้รับรองเอกสารเยอะมาก อาจมีการผิดพลาดได้

** ข้อเสนอแนะ
จากประสบการณ์ของเรา  การไปแปลเอกสารเอาที่หน้ากงศุลนั้น ต้องทิ้งเบอร์โทรเอาไว้ จากนั้นอาจจะมีใครโทรเข้ามาเสนอกับคุณว่าจะพาไปจดทะเบียนที่สำนักงานเขต โดยเค้าอาสาจะเป็นนายหน้าให้..โดยบอกเราว่าขั้นตอนมันยุ่งยากอย่างงู้นอย่างงี้  อย่าไปหลงเชื่อเพราะคุณต้องทำเองอยู่ดี

ตอนเช้าวันนั้นเราไปหาที่แปลเอกสาร  เคยเล็งที่หนึ่งไว้ตรงตึก Thai CC ด้านล่าง  ปรากฏว่าเค้าเสนอให้เราบอกว่าเค้าบริการแปล .. ดำเนินการเรื่องรับรองเอกสาร และพาไปจดทะเบียนภายในวันเดียวเรียบร้อย โดยคิดค่าบริการทั้งหมด 9,000 บาท  โดยเค้าจะโน้มน้าวต่างๆ นานา บอกว่าคุณทำเองไม่ได้หรอก..อย่าไปหลงเชื่อ

พอเราเดินออกมาจากตึกก็จะมีผู้ชายอีกคนถามเราว่าแปลเอกสารหรือเปล่า หรือจะจดทะเบียนสมรส  เค้าช่วยได้  ให้เราเดินเข้าไปคุยในออฟฟิศ  ปรากฏเค้าบอกเราว่าเราต้องเอาเอกสารไปรับรองที่กงศุลเองโดยเค้าจะไปเป็นเพื่อน โดยทางเราต้องเสียค่าบริการบวกค่าแท็กซี่ (คิดในใจ ในเมื่อตูต้องไปทำด้วยตัวเองอยู่ดี  แล้วตูจะต้องเอาคุณไปด้วยทำไมให้หนักรถฟระ)   คิดค่าบริการเราที่ 3,000 บาท เราก็เลยสะกิดคุณสามีให้ออกไปเคลียร์กันข้างนอก  แล้วก็สรุปว่าไปทำเองมันเลยดีกว่า

สรุปแล้ววันนั้นเสียค่าอะไรต่างๆ เองไม่ถึง 2,000 บาท ค่าแปลเอกสาร 350 ค่ารับรองเอกสาร 800 บวกกับค่าแท็กซี่ไปกลับประมาณไม่เกิน 400 บาท

จากนั้นเรากับแฟนก็ตรงไปที่สำนักงานเขตบางรัก  ไปถึงก็ไปยื่นเอกสารที่ประชาสัมพันธ์ ตามที่เตรียมไว้ข้างบน เค้าก็จะเอาแบบฟอร์มมาให้เรากรอกให้ค่อยๆ กรอกเพราะมันก็มีรายละเอียดเยอะพอสมควร  พอกรอกเสร็จก็เอาเอกสารไปยื่นไว้ที่เจ้าหน้าที่คนเดิม  เค้าก็จะให้เราไปนั่งรอจดทะเบียน

ขั้นตอนต่างๆ ก็จะมีเจ้าหน้าที่แนะนำเองนั่นแหล่ะ อธิบายไม่หมดเพราะมันเยอะเกิน  แต่สรุปว่าที่สำนักงานเขตบางรักเราเสียเงิน 40 บาท บวกกับค่าถ่ายเอกสารไม่เกิน 100 บาท  วันนั้นก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย